สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. เตรียมเปิดสอบธุรการโรงเรียน 16,000 อัตรา โดยให้ทำงานเพียงโรงเรียนเดียว
นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการบริหารอัตรากำลังทดแทนข้าราชการครูหลังเกษียณอายุราชการ เนื่องจากปีที่ผ่านมาเราพบปัญหาโรงเรียนหนึ่งมีการเกษียณอายุราชการจำนวนมากทำให้เหลือผู้อำนวยการโรงเรียนคนเดียวจนต้องให้พระสงฆ์มาช่วยจัดการเรียนการสอน ดังนั้นในปีการศึกษา 2561 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีตั้งหลักการใหม่ว่า หลังจากในวันที่ 1 ต.ค.จะมีครูเกษียณอายุราชการ จำนวน 20,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้เรามีตัวเลขชัดเจนว่าครูเหล่านี้เกษียณอายุราชการในพื้นที่ไหนโรงเรียนใดบ้าง ดังนั้นระหว่างนี้ สพฐ.จะประสานความร่วมมือกับศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ให้มีการโยกย้ายข้าราชการครูอีกรอบหนึ่งก่อนเพื่อไปทดแทนอัตราเกษียณอายุราชการดังกล่าว เพื่อดำเนินการโยกย้ายข้าราชการทดแทนอัตราเกษียณอายุราชการตามที่ครูยื่นความประสงค์ขอย้ายให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 1 ต.ค. โดยเมื่อการดำเนินการโยกย้ายทดแทนเสร็จสิ้นก็ยังขาดครูอยู่นั้นก็จะมีการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี 2561 ที่สอบได้ ประมาณ 40,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้จะมีครูผู้ช่วยที่ได้บรรจุรอบแรก จำนวน 5,000 คนตามตำแหน่งสาขาวิชาที่ สพฐ.ประกาศไว้ จากนั้นรอบสองภายในต้นเดือน พ.ย.ก็จะมีการเรียกบรรจุครูผู้ช่วยที่ประกาศขึ้นบัญชีไว้เข้าสู่ระบบต่อไป ซึ่งตรงนี้จะทำให้เราแก้ปัญหาขาดแคลนครูได้
“ทั้งนี้แม้จะแก้ไขปัญหาขาดแคลนครูได้ส่วนหนึ่งแต่ก็จะมีประเด็นอื่นๆตาม เพราะบางโรงเรียนไม่มีการเขียนคำขอย้าย หรือบางโรงเรียนแทนที่จะบรรจุข้าราชการได้เลยแต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ยังไม่อนุญาตให้คืนอัตรากำลังให้กับโรงเรียนที่มีเด็กต่ำกว่า 250 คน ซึ่งขณะนี้นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ได้ทำหนังสือไปถึง คปร.แล้วว่า ให้ขอยกเว้นหลักเกณฑ์ดังกล่าวและสามารถบรรจุแต่งตั้งครูได้แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา แต่ระหว่างนี้ก็ยังเป็นประเด็นว่าโรงเรียนที่มีเด็กต่ำกว่า 250 คนจะมีครูไม่พบหรือไม่มีครูเลยผมก็ยังตอบไม่ได้ จึงได้ให้สำนักงานระบบพัฒนางานบุคคลและนิติการ (สพร.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ทำแผนรองรับเรื่องนี้ทันที่ โดยหลังจากมีการเกษียณอายุราชการ ย้ายข้าราชการ และบรรจุข้าราชการ ในวันที่ 1 ต.ค.แล้ว ให้สำรวจว่ามีโรงเรียนใดบ้างที่ยังขาดแคลนครูแบบวิกฤต จากนั้นให้รายงานให้ผมรับทราบทันทีก่อนวันที่ 20 ก.ย.นี้ เพื่อจะได้จัดสรรครูอัตราจ้างและพนักงานราชการลงไปทดแทน ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวออกไปได้ “ เลขา กพฐ.กล่าวและว่า ทั้งนี้ในส่วนของลดภาระงานครูนั้น เราได้มีการจ้างครูธุรการทั่วประเทศประมาณ 15,000 คน โดยมีอัตราเงินเดือนละ 15,000 บาทโดยทำหน้าที่คนละ 2 โรงเรียน และจากการสำรวจพบว่าโรงเรียนยังขาดแคลนตำแหน่งอีกว่า 16,000 คน ซึ่งสพฐ.ได้หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาโดยวิธีอัตราจ้างเหมาบริการโดยมีอัตราเงินเดือนละ 9,000 บาทแต่ในอัตรานี้จะให้ทำงานเพียงโรงเรียนเดียว แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้แนวทางใดในการแก้ไขปัญหาโดยจะเลือกแนวทางที่ดีที่สุดในการลดภาระงานของครูต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์