“กนกวรรณ” เล็งเพิ่มข้าราชการครู “กศน.” 891 อัตรา

รมช.ศึกษาธิการ ถก นโยบายขับเคลื่อนงาน กศน. เล็งสร้างกศน.ตำบลระดับพรีเมี่ยม และเพิ่มข้าราชการครู กศน.891 อัตรา จี้ครู กศน.ต้องพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษและภาษาที่สามทุกคน

วันนี้ (28 ต.ค.) นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมประชุมมอบนโยบายการขับเคลื่อนงานของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ประจำปี 2563 ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ให้แก่กศน.จังหวัดทั่วประเทศว่า ตนได้ประชุมติดตามนโยบายต่างๆของรัฐบาลและนโยบายของตนว่าติดปัญหาและอุปสรรคใดบ้าง และมีการดำเนินการคืบหน้าไปถึงไหนบ้างแล้ว พร้อมรับฟังปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดการทำงานที่ไปในทิศทางเดียวกัน โดยพื้นที่ได้สะท้อนปัญหาการทำงาน เช่น รถโมบายเคลื่อนที่ของกศน.มีการใช้งานมานานแล้วจึงอยากได้รับงบประมาณปรับปรุงให้มีความทันสมัย รวมถึงรถโมบายบางคันมีขนาดใหญ่จนทำให้เข้าพื้นที่บริการในชุมชนได้ไม่สะดวก ซึ่งตนพร้อมรับเสียงสะท้อนในประเด็นเหล่านี้มาแก้ไขให้ เป็นต้น

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ในส่วนของการพัฒนาครูกศน.นั้นตนรับปากที่จะสร้างขวัญกำลังใจให้ด้วยการเร่งดำเนินการเรื่องการหาอัตราตำแหน่งการสรรหา บรรจุ และแต่งตั้ง ข้าราชการครูกศน.ใน จำนวน 891 อัตราให้ได้ โดยแบ่งสัดส่วนให้กลุ่มลูกจ้างกศน.มีสิทธิ์สอบ จำนวน ร้อยละ 80 เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่กลุ่มลูกจ้างก่อน และเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้ามาสอบอีก ร้อยละ 20 แต่ในกลุ่มนี้จะมีเกณฑ์คัดเลือกสูงและเข้มข้นทั้งวิชาการและภาษาอังกฤษ และภาษาที่สาม เช่น บรรจุในพื้นที่ใกล้ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านใดก็ต้องสามารถใช้ภาษาเหล่านั้นได้ด้วย เป็นต้น ขณะเดียวกันครูกศน.เองก็ต้องมีการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษด้วย เพราะถือเป็นนโยบายหลักของรมว.ศธ.ที่ต้องการให้ครูทุกสังกัดของศธ.มีทักษภาษาที่เข้มข้น นอกจากนี้จะพัฒนากศน.ตำบลให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยยกระดับกศน.ตำบล 928 แห่ง อำเภอละ 1 แห่ง เป็นกศน.ตำบล 5 พรีเมี่ยม และส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ พัฒนาการจัดการศึกษาออนไลน์กศน. มีหลักสูตรลูกเสือมัคคุเทศก์ และปรับหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ รวมถึงเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายจัดทำภูมิปัญญาท้องถิ่นและส่งเสริมภูมิปัญญาสู่การจัดการเรียนรู้ชุมชน ขณะเดียวกันจะพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาและกลุ่มเป้าหมาย

ขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์